Go to the page content
เกี่ยวกับโรคอ้วน

โรคอ้วนและโรคเบาหวานเชื่อมโยงกันอย่างไร

ความเชื่อมโยงระหว่างโรคอ้วนกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นสิ่งที่ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจน โดยทั้งสองโรคนี้มักปรากฏร่วมกันเป็นโรคร่วม (comorbidities)

5 นาที อ่าน
ผู้หญิงกําลังพูดคุยกับแพทย์

คำอธิบายเกี่ยวกับอินซูลิน

อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในร่างกาย โรคอ้วน – โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระจายตัวของไขมันในช่องท้อง – อาจนําไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอ หรือไม่สามารถใช้อินซูลินที่ผลิตได้อย่างเหมาะสม การดื้ออินซูลินสามารถนําไปสู่ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 อย่างมาก

อินซูลินมีความสำคัญต่อการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน ดังนั้น ด้วยการทํางานของอินซูลินที่ลดลงที่มาพร้อมกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ความเสี่ยงของโรคอ้วนจึงเพิ่มขึ้นเช่นกัน

เนื่องจากความทับซ้อนกันอย่างมีนัยสําคัญระหว่างโรคทั้งสองนี้ จึงมีแนวทางในการดูแลสุขภาพที่คล้ายคลึงกัน เช่น โภชนาการและกิจกรรมทางกายที่จําเป็นต่อการช่วยจัดการโรคเหล่านี้ แม้ว่าปัจจัยด้านวิถีชีวิตจะมีบทบาทสําคัญในการรักษาโรคอ้วนและโรคเบาหวาน แต่ในบางกรณีอาจจําเป็นต้องมีการรักษาอื่น ๆ เช่น การรักษาด้วยยา

ความเสี่ยงต่อโรคอ้วนของแต่ละบุคคล

โรคอ้วนนั้นพบได้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่าประชากรเกือบ 2 พันล้านคนจะมีชีวิตอยู่ร่วมกับโรคอ้วนภายในค.ศ. 2035 โรคอ้วนเกิดขึ้นเนื่องจากไขมันในร่างกายมากเกินไป เป็นโรคเรื้อรังหรือ ภาวะที่คงอยู่เป็นเวลานาน

โรคอ้วนมักถูกมองว่าเป็นโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิต อย่างไรก็ตาม รูปแบบการดําเนินชีวิตเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสมการนั้น ร่างกายการเผาผลาญและพันธุกรรมของทุกคนก่อให้เกิดสมการเฉพาะตัว วิทยาศาสตร์ทําให้เราเข้าใจได้ดีขึ้นว่าพันธุกรรมที่แตกต่างกันมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วนตามธรรมชาติอย่างไร

โรคอ้วนไม่เพียงแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สําคัญสําหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มอัตราการลุกลามของโรคของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ดังนั้นการรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ในเกณฑ์ปกติและหลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักจึงมีความสําคัญสําหรับการจัดการและป้องกันโรคเบาหวาน คนที่มีน้ำหนักเกิน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองในทุก ๆ วัน ด้านระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง

โรคอ้วนเป็นโรคทางพันธุกรรมหรือไม่

ภาวะน้ำหนักเกินจะกลายเป็นโรคอ้วนเมื่อใด

โรคอ้วนเป็นโรคเรื้อรังที่ซับซ้อนซึ่งไขมันในร่างกายที่ผิดปกติหรือมากเกินทําให้สุขภาพแย่ลง เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางการแพทย์ในระยะยาวและลดอายุขัย โรคอ้วนถูกกําหนดโดยใช้ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index, BMI; น้ำหนัก/ส่วนสูง2) โรคอ้วนหมายถึง BMI ที่เกิน 30 กก./ม.2 และถูกแบ่งประเภทย่อยเป็นระดับที่ 1 (30–34.9), ระดับที่ 2 (35–39.9) และระดับที่ 3 (≥ 40) ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพจากไขมันส่วนเกินของร่างกายเพิ่มขึ้นเมื่อ BMI เพิ่มขึ้น

BMI เป็นเครื่องมือในการประเมินไขมันในร่างกายและคัดกรองโรคอ้วนและความเสี่ยงด้านสุขภาพ สามารถคํานวณได้จากเครื่องคํานวณค่า BMI และจัดประเภทคนว่ามีน้ำหนักน้อย น้ำหนักเกิน และโรคอ้วนตามส่วนสูงและน้ำหนัก BMI คํานวณโดยการหารน้ำหนักในหน่วยกิโลกรัมด้วยความสูงในหน่วยเมตร จากนั้นจึงเปรียบเทียบผลของคุณกับระดับ BMI ดัชนีมวลกาย (BMI) ยังสามารถสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2

สถานะน้ำหนักมีหกประเภท:

BMI ที่มีสุขภาพดีคืออะไร

น้ำหนักต่ำกว่าค่าที่กําหนด ต่ำกว่า 18.5
ปกติ 18.5 - 24.9
น้ำหนักเกินกว่าปกติ 25 - 29.9
 ระดับที่ 1 30.0 – 34.9
 ระดับที่ 2 35.0 – 39.9
 ระดับที่ 3 เกิน 40

ค้นหา BMI และความเสี่ยงด้านสุขภาพของคุณ

หน่วยวัด ระบบอิมพีเรียล
หน่วยวัด / ระบบอิมพีเรียล

ผู้ที่มีน้ำหนักเกินควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีการชะลอการลุกลามของโรคหรือป้องกันโรคอ้วนที่อาจเกิดขึ้น  หากคุณอยู่ในภาวะโรคอ้วนระดับที่ 1, 2 หรือ 3 คุณควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการจัดการ โรคอ้วนและความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ของคุณ

วิธีลดความเสี่ยงของโรคอ้วนและโรคเบาหวานชนิดที่ 2

โภชนาการและกิจกรรมทางกายเป็นคําแนะนําที่สําคัญในการลดความเสี่ยงหรือชะลอการลุกลามของโรคอ้วนและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แม้ว่าการควบคุมน้ำหนักและโภชนาการมักจะดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายบนกระดาษ แต่ก็ไม่ค่อยง่ายนัก ในทางปฏิบัติ สิ่งที่ได้ผลสําหรับบุคคลหนึ่งอาจไม่ได้ผลสําหรับอีกคนหนึ่ง

ความแตกต่างทางพันธุกรรมของเราหมายความว่าเราทุกคนเก็บสะสมและใช้พลังงานแตกต่างกัน แม้ว่าเราจะทำให้สุขภาพของเราให้ดีขึ้น แต่ร่างกายและการเผาผลาญของเราก็ตอบสนองต่อระดับสมรรถภาพทางกายที่เปลี่ยนแปลงไปได้แตกต่างกัน ซึ่งหมายความว่าแนวทางของเรา และรวมไปถึงโภชนาการของเรา อาจจําเป็นต้องต้องปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน

ความสามารถในการเลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การเข้าถึงอาหารที่ดี มีราคาจับต้องได้ หรือมีเวลาและพลังงานเพียงพอสำหรับการออกกำลังกาย ล้วนเชื่อมโยงโดยตรงกับฐานะทางเศรษฐกิจ สภาพความเป็นอยู่ และสภาพแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่

ไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพแบบเดียวที่เหมาะกับทุกคน สิ่งที่ถูกต้องในตอนเริ่มต้นของการเดินทางอาจไม่ใช่เส้นชัย นั่นหมายความว่าคุณต้องหาทางแก้ไขที่เหมาะสม หรือการเปลี่ยนแปลงในระดับที่เหมาะสมสําหรับคุณ ไม่มีใครสามารถบรรลุทุกสิ่งได้ในชั่วข้ามคืน ดังนั้นให้เริ่มต้นด้วยสิ่งที่สามารถจัดการได้และค่อย ๆ ก้าวไปสู่เป้าหมายที่เป็นไปได้ในระยะยาว

และอย่าลืมว่าคุณไม่จำเป็นต้องเดินทางสายนี้เพียงลำพัง นอกเหนือจากคําแนะนําด้านล่าง จุดเริ่มต้นของคุณควรขอคําแนะนําจากแพทย์

คุณรู้หรือไม่ว่า...

มีการประมาณการณ์ถึงโอกาสในการสืบทอดโรคอ้วนผ่านทางพันธุกรรมระหว่าง 40-70%

-McPherson R. Genetic contributors to obesity

โภชนาการ

แม้ว่าโภชนาการจะเป็นปัจจัยสําคัญในด้านสุขภาพสําหรับทุกคน โดยไม่คํานึงถึงขนาดร่างกาย แต่ก็ไม่มีแผนการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่เหมาะกับคนทุกคน คุณควรเลือกแผนการรับประทานอาหารที่สนับสนุนสุขภาพที่ดีที่สุดของคุณและคุณสามารถปฏิบัติได้ในระยะยาว

การควบคุมอาหารในระยะสั้น หรือการจํากัดปริมาณอาหารของคุณอย่างเข้มงวด อาจทําให้ปรับตัวของระบบเผาผลาญได้ ซึ่งอาจทําให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องยากที่จะรักษาไว้หลังจากช่วงเวลาที่มีการจํากัดอาหาร

พูดคุยกับผู้บุคลากรทางการแพทย์ของคุณเพื่อหาแนวทางการกินที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ รวมถึงควรพบกับนักโภชนาการที่ขึ้นทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาเฉพาะบุคคลและการสนับสนุนอย่างเหมาะสม

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการโรคเบาหวานและโรคอ้วน:

วิธีจัดการโรคเบาหวานด้วยอาหาร

โปรแกรมการจัดการโรคอ้วน: วิธีค้นหาการออกกำลังกายที่ดีที่สุดสําหรับคุณ

โรคเบาหวานและโรคอ้วน – สิ่งที่คุณจําเป็นต้องทราบ

การออกกำลังกาย

การออกกําลังกาย แนะนําให้ทุกคนออกกําลังกายในระดับปานกลางเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน ห้าครั้งต่อสัปดาห์ ไม่เพียงแต่ควบคุมน้ำหนักและน้ำตาลในเลือดเท่านั้น แต่ยังลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย สําหรับบางคนนี่อาจเป็นการฝึกที่เข้มข้น แต่สําหรับคนอื่น ๆ อาจเป็นโยคะเบา ๆ

ทุกคนมีความแตกต่างกัน และระดับของกิจกรรมทางกายที่คุณเข้าร่วมควรสอดคล้องระดับสมรรถภาพทางกายที่มีอยู่ของคุณ การออกกำลังกายมากเกินไปเร็วเกินไปอาจทําให้เกิดการบาดเจ็บหรือเหนื่อยล้าได้ แรงจูงใจมักยั่งยืนมากกว่าเมื่อมีความก้าวหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป

หากคุณไม่ได้ทํากิจกรรมทางกายเป็นเวลานาน ให้เริ่มด้วยกิจกรรมเบา ๆ เช่น การเดินทุกวันที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน เพิ่มระยะทางและก้าวทีละน้อยในแต่ละสัปดาห์เพื่อให้คุณมีชีพจรเพิ่มขึ้นและค่อย ๆ เพิ่มสมรรถภาพทางกายแบบแอโรบิก สิ่งสําคัญคือการคงการออกกำลังกายต่อไป ในขณะที่สมรรถภาพทางกายของคุณดีขึ้น ระบบเผาเผลาญของคุณก็จะดีขึ้นเช่นกัน เพื่อให้สุขภาพของคุณดีขึ้นเรื่อย ๆ คุณควรค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นของกิจกรรมทางกายของคุณ

การออกกําลังกายเป็นประจําจะเสริมสุขภาพที่หลากหลายในผู้ใหญ่ในทุกกลุ่ม BMI แม้ว่าจะน้ำหนักจะไม่ลดก็ตาม การออกกําลังกายแบบแอโรบิกและแบบแรงต้านช่วยรักษาหรือเพิ่มสมรรถภาพของหัวใจและการหายใจ การเคลื่อนไหว ความแข็งแรง และมวลกล้ามเนื้อในระหว่างการควบคุมน้ำหนัก

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการโรคเบาหวานและโรคอ้วน:

โปรแกรมการจัดการโรคอ้วน: วิธีค้นหาการออกกำลังกายที่ดีที่สุดสําหรับคุณ

วิธีจัดการโรคเบาหวานด้วยการออกกําลังกาย

ปัจจัยทางจิตวิทยา 

ภาวะซึมเศร้าและอาการนอนไม่หลับสามารถเชื่อมโยงกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้ สุขภาพกายและใจมีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง – เมื่อด้านใดด้านหนึ่งเริ่มอ่อนแอ ก็มักส่งผลกระทบต่ออีกด้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กรณีของสุขภาพจิต การระบุสาเหตุที่แท้จริงของอาการหรือทําการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวคุณเองก็อาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นขอแนะนําให้ขอคําแนะนําจากแพทย์หากปัญหายังคงอยู่

8 วิธีในการจัดการความเครียดและเอาชนะอุปสรรคทางจิตใจต่อการลดน้ำหนัก

ลองพูดคุยกับแพทย์เมื่อมีปัญหา

โรคอ้วนมีความซับซ้อนและจัดการได้ยาก ขอคําแนะนําจากแพทย์เมื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลง รูปแบบการดําเนินชีวิตและทําความเข้าใจทางเลือกที่มีให้ดียิ่งขึ้น

การวินิจฉัยและการรักษาโรคอ้วน: ทําไมจึงสําคัญ

ค้นหาผู้ให้บริการจัดการน้ำหนักในท้องถิ่นของคุณ

พูดคุยกับผู้ให้บริการปรึกษาการจัดการน้ำหนักของคุณเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษาที่อาจทําให้น้ำหนักที่คุณลดไม่กลับมาอีก

แหล่งอ้างอิง
  • Akın S, Bölük C. Prevalence of comorbidities in patients with type-2 diabetes  mellitus. Prim Care Diabetes. 2020 Oct;14(5):431-434. doi: 10.1016/j. pcd.2019.12.006. Epub 2020 Jan 2. PMID: 31902582.
  • Khaodhiar L, McCowen KC, Blackburn GL. Obesity and its comorbid conditions.  ClinCornerstone. 1999;2(3):17-31. doi: 10.1016/s1098-3597(99)90002-9. PMID:10696282.
  • Abdullah, Asnawi et al. “The magnitude of association between overweight and obesity and the risk of diabetes: a meta-analysis of prospective cohort studies.” Diabetes research and clinical practice vol. 89,3 (2010): 309-19. doi:10.1016/j. diabres.2010.04.012
  • Wilcox G. Insulin and insulin resistance. Clin Biochem Rev. 2005 May;26(2):19-39. PMID: 16278749; PMCID: PMC1204764.
  • Westphal SA. Obesity, abdominal obesity, and insulin resistance. Clin Cornerstone. 2008;9(1):23-29; discussion 30-1. doi: 10.1016/s1098-3597(08)60025-3. PMID:19046737.
  • Leitner DR, Frühbeck G, Yumuk V, Schindler K, Micic D, Woodward E, Toplak H. Obesity and Type 2 Diabetes: Two Diseases with a Need for Combined Treatment Strategies - EASO Can Lead the Way. Obes Facts. 2017;10(5):483- 492. doi:10.1159/000480525. Epub 2017 Oct 12. PMID: 29020674; PMCID: PMC5741209.
  • World Obesity Federation. World Obesity Atlas 2023. https://data.worldobesity. org/publications/?cat=19. เข้าถึงล่าสุด: April 2023.
  • Kelly T, Yang W, Chen CS, Reynolds K, He J. Global burden of obesity in 2005 and projections to 2030. Int J Obes (Lond). 2008 Sep;32(9):1431-7. doi:10.1038/ ijo.2008.102. Epub 2008 Jul 8. PMID: 18607383.
  • Bouchard C. Genetics of Obesity: What We Have Learned Over Decades of Research. Obesity (Silver Spring). 2021 May;29(5):802-820. doi: 10.1002/ oby.23116. PMID: 33899337.
  • DeJesus RS, Breitkopf CR, Rutten LJ, Jacobson DJ, Wilson PM, Sauver JS. Incidence Rate of Prediabetes Progression to Diabetes: Modeling an Optimum Target Group for Intervention. Popul Health Manag. 2017 Jun;20(3):216-223. doi: 10.1089/pop.2016.0067. Epub 2016 Sep 30. PMID: 27689627.
  • Ross SA, Dzida G, Vora J, Khunti K, Kaiser M, Ligthelm RJ. Impact of weight gain on outcomes in type 2 diabetes. Curr Med Res Opin. 2011 Jul;27(7):1431-8. doi:10.1185/03007995.2011.585396. Epub 2011 May 23. PMID: 21599553.
  • Ardisson Korat AV, Willett WC, Hu FB. Diet, lifestyle, and genetic risk factors for type 2 diabetes: a review from the Nurses’ Health Study, Nurses’ Health Study 2, and Health Professionals’ Follow-up Study. Curr Nutr Rep. 2014 Dec 1;3(4):345 doi:10.1007/s13668-014-0103-5. PMID: 25599007; PMCID: PMC4295827.
  • Wharton S, Lau DCW, Vallis M, et al. Obesity in adults: a clinical practice guideline. CMAJ. 2020;192(31):E875-E891. doi:10.1503/cmaj.191707.
  • Ganz ML, Wintfeld N, Li Q, Alas V, Langer J, Hammer M. The association of body mass index with the risk of type 2 diabetes: a case-control study nested in an electronic health records system in the United States. Diabetol Metab Syndr. 2014 Apr 3;6(1):50. doi: 10.1186/1758-5996-6-50. PMID: 24694251; PMCID:PMC3976458.
  • Bao W, Yeung E, Tobias DK, Hu FB, Vaag AA, Chavarro JE, Mills JL, Grunnet LG, Bowers K, Ley SH, Kiely M, Olsen SF, Zhang C. Long-term risk of type 2 diabetes mellitus in relation to BMI and weight change among women with a history of gestational diabetes mellitus: a prospective cohort study. Diabetologia. 2015 Jun;58(6):1212-9. doi: 10.1007/s00125-015-3537-4. Epub 2015 Mar 22. PMID:25796371; PMCID: PMC4629783.
  • Centers for Disease Control and Prevention. Healthy Weight, Nutrition, and Physical Activity – Assessing Your Weight. https://www.cdc.gov/healthyweight/ assessing/. เข้าถึงล่าสุด: June 2022.
  • Bouchard C, Pérusse L, Dériaz O, Després JP, Tremblay A. Genetic influences on energy expenditure in humans. Crit Rev Food Sci Nutr. 1993;33(4-5):345-50. doi:10.1080/10408399309527631. PMID: 8357495.
  • Morris C, Grada CO, Ryan M, Roche HM, De Vito G, Gibney MJ, Gibney ER, Brennan L. The relationship between aerobic fitness level and metabolic profiles in healthy adults. Mol Nutr Food Res. 2013 Jul;57(7):1246-54. doi: 10.1002/mnfr.201200629. Epub 2013 Mar 15. PMID: 23505034.
  • Pechey R, Monsivais P. Socioeconomic inequalities in the healthiness of food choices: Exploring the contributions of food expenditures. Prev Med. 2016 Jul;88:203-9. doi: 10.1016/j.ypmed.2016.04.012. Epub 2016 Apr 16. PMID:27095324; PMCID: PMC4910945.
  • McPherson R. Genetic contributors to obesity. Can J Cardiol. 2007 Aug;23 Suppl A(Suppl A):23A-27A. doi: 10.1016/s0828-282x(07)71002-4. PMID: 17668084; PMCID:PMC2787002.
  • Hall KD, Kahan S. Maintenance of Lost Weight and Long-Term Management of Obesity. Med Clin North Am. 2018 Jan;102(1):183-197. doi: 10.1016/j.mcna.2017.08.012. PMID: 29156185; PMCID: PMC5764193.
  • Tian D, Meng J. Exercise for Prevention and Relief of Cardiovascular Disease: Prognoses, Mechanisms, and Approaches. Oxid Med Cell Longev. 2019 Apr 9;2019:3756750. doi: 10.1155/2019/3756750. PMID: 31093312; PMCID:PMC6481017.
  • Moghetti P, Bacchi E, Brangani C, Donà S, Negri C. Metabolic Effects of Exercise. Front Horm Res. 2016;47:44-57. doi: 10.1159/000445156. Epub 2016 Jun 27. PMID:27348753.
  • Blaine B. Does depression cause obesity?: A meta-analysis of longitudinal studies of depression and weight control. J Health Psychol. 2008 Nov;13(8):1190-7. doi:10.1177/1359105308095977. PMID: 18987092.
  • Cooper CB, Neufeld EV, Dolezal BA, Martin JL. Sleep deprivation and obesity in adults: a brief narrative review. BMJ Open Sport Exerc Med. 2018 Oct 4;4(1):e000392. doi: 10.1136/bmjsem-2018-000392. PMID: 30364557; PMCID: PMC6196958.

TH25OB00051

สิ่งนี้มีประโยชน์สําหรับคุณหรือไม่

คุณอาจจะชอบ